Insights

Google แนะ ใช้ AI อย่างรับผิดชอบ แล้วการใช้ AI อย่างรับผิดชอบช่วยอะไรเราได้บ้าง?

AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ แต่การจะใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องมีการพัฒนาและใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ
หนึ่งในเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้การใช้ AI มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น คือ “Grounding” ซึ่งหมายถึงการเชื่อมโยงโมเดล AI เข้ากับข้อมูลจริงจากโลกภายนอก เช่น ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต หรือฐานข้อมูลขององค์กร ทำให้ AI สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นปัจจุบันได้มากขึ้น

“อรรณพ ศิริติกุล Country Director, Google Cloud ประเทศไทย เปิดประเด็น การใช้เอไอ อย่างมีความรับผิดชอบซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ท่ามกลางการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ซึ่งการ Grounding เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ดันให้เอไอมีความแม่นยำและเชื่อถือได้” (ที่มาประโยค:ข่าวกรุงเทพธุรกิจ)

ทำไมการ Grounding ถึงมีความสำคัญต่อการพัฒนา AI?

เพิ่มความน่าเชื่อถือ: การใช้ AI อย่างรับผิดชอบช่วยให้ผลลัพธ์จาก AI มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เนื่องจากมีการอ้างอิงข้อมูลจริงและตรวจสอบได้

ลดความผิดพลาด: การใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดจากข้อมูลที่ผิดพลาดหรือดูเหมือนจริงแต่ไม่ถูกต้อง

ขยายขอบเขตการใช้งาน: เมื่อมีการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในงานที่ซับซ้อนและมีความสำคัญมากขึ้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

สร้างความมั่นใจ: ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อ AI มีการใช้อย่างรับผิดชอบ โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลที่ได้รับมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ

ตัวอย่างการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ

  • Chatbot: Chatbot ที่ผ่านการพัฒนาตามหลักการของการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยอ้างอิงข้อมูลจากฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้
  • Virtual Assistant: ผู้ช่วยเสมือนจริงที่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารล่าสุดได้อย่างถูกต้องผ่านการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลออนไลน์

ในมุมมองของผู้ใช้ การใช้ AI อย่างรับผิดชอบช่วยให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว ส่งผลดีต่อการตัดสินใจและการเข้าถึงบริการที่หลากหลาย

ผลกระทบต่อสังคม
การใช้ AI อย่างรับผิดชอบส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ ลดความเสี่ยงจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม และสร้างความไว้วางใจในเทคโนโลยี AI

การ Grounding กับการพัฒนา AI อย่างรับผิดชอบ
การ Grounding เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ช่วยให้ AI มีความรับผิดชอบมากขึ้น ด้วยการยึดโยงข้อมูลกับแหล่งที่มาที่ชัดเจน ทำให้การใช้ AI มีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อทั้งธุรกิจและสังคม.

การใช้ AI อย่างรับผิดชอบช่วยลดความเสี่ยงในธุรกิจได้อย่างไร?

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ การใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบไม่เพียงแค่สร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในหลายมิติของธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของความถูกต้อง จริยธรรม และความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จระยะยาวขององค์กร

ลดความเสี่ยงด้านกฎหมายและจริยธรรม:
การใช้ AI อย่างรับผิดชอบหมายถึงการออกแบบและใช้งาน AI ที่ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักจริยธรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย GDPR หรือ PDPA และการหลีกเลี่ยงอคติ (bias) ในการตัดสินใจของ AI ตัวอย่างเช่น หากองค์กรใช้ AI ในการคัดเลือกพนักงาน การตั้งโปรแกรม AI ให้มีความโปร่งใสและยุติธรรมจะช่วยป้องกันการเลือกปฏิบัติและลดความเสี่ยงที่อาจถูกฟ้องร้องหรือเสียชื่อเสียงได้

ป้องกันข้อผิดพลาดในกระบวนการตัดสินใจ:
AI ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างรับผิดชอบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดจากการตัดสินใจของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น AI ในระบบการเงินที่ตรวจจับการฉ้อโกง (fraud detection) สามารถช่วยธุรกิจป้องกันความสูญเสียทางการเงิน และลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมที่ผิดพลาด

เพิ่มความไว้วางใจจากลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย:
ธุรกิจที่แสดงถึงความรับผิดชอบในการใช้ AI จะได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจมากขึ้น การใช้ AI อย่างโปร่งใส เช่น การเปิดเผยว่ามีการใช้ AI ในกระบวนการใดและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล จะช่วยลดความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์และการสูญเสียความไว้วางใจ

ป้องกันความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียง:
AI ที่ขาดความรับผิดชอบอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร เช่น การเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือการตัดสินใจที่ไม่เหมาะสม การใช้ AI อย่างรับผิดชอบช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาเหล่านี้โดยการตั้งระบบตรวจสอบและควบคุม (audit and monitoring)

ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์:
การใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบควรคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและระบบ การออกแบบ AI ให้มีการป้องกันการโจมตีไซเบอร์และลดช่องโหว่ที่อาจถูกเจาะระบบ จะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรจากการรั่วไหลและความเสียหาย

การสร้างความยั่งยืนในธุรกิจ:
AI อย่างรับผิดชอบช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาว โดยการนำ AI มาช่วยในด้านการวางแผนและจัดการทรัพยากร เช่น การคาดการณ์ความต้องการสินค้า หรือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดต้นทุนและสร้างผลกระทบที่เป็นบวกต่อสิ่งแวดล้อม

การใช้ AI อย่างรับผิดชอบไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือก แต่เป็นความจำเป็นในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและความซับซ้อนเพิ่มขึ้น การปฏิบัติตามแนวทางที่โปร่งใสและมีจริยธรรมไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ และทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว.

แนวปฏิบัติการใช้ AI อย่างรับผิดชอบในองค์กรธุรกิจ

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ องค์กรต่างๆ ไม่เพียงแต่ต้องนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน แต่ยังต้องมั่นใจว่า การใช้ AI อย่างรับผิดชอบ เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์การพัฒนา โดยแนวปฏิบัติที่สำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจมีดังนี้:

การตั้งเป้าหมายการใช้ AI อย่างชัดเจน
องค์กรควรกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้ AI ให้ชัดเจน โดยควรมุ่งเน้นการใช้ AI เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและสังคม เช่น การปรับปรุงการให้บริการ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การตั้งเป้าหมายที่โปร่งใสช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

การพิจารณาจริยธรรมและความเป็นธรรม (Ethical AI)
การใช้ AI อย่างรับผิดชอบ ต้องคำนึงถึงจริยธรรม เช่น การหลีกเลี่ยงอคติ (bias) ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการตัดสินใจของ AI องค์กรควรตรวจสอบว่าระบบ AI ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนความเป็นธรรม เช่น การตรวจสอบข้อมูลที่ใช้ฝึก AI ว่าไม่มีข้อมูลที่สะท้อนความไม่เท่าเทียม

การปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
AI ที่มีการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เช่น GDPR หรือ PDPA องค์กรต้องมั่นใจว่ามีการเก็บรวบรวม ใช้งาน และปกป้องข้อมูลลูกค้าอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการรั่วไหลหรือการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด

ความโปร่งใสในการใช้งาน AI
องค์กรควรสื่อสารอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI ในกระบวนการต่างๆ ตัวอย่างเช่น หากมีการใช้ AI ในการให้คำแนะนำหรือการคัดกรองข้อมูล ควรแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบถึงบทบาทของ AI และกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความไว้วางใจ

การตรวจสอบและปรับปรุงระบบ AI อย่างต่อเนื่อง
AI จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบยังคงทำงานอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ องค์กรควรกำหนดระบบการตรวจสอบ (audit) และสร้างแผนรับมือในกรณีที่เกิดความผิดพลาดจากการทำงานของ AI.

อนาคตของ AI อย่างรับผิดชอบ: แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลง

ในอนาคต การพัฒนา AI อย่างรับผิดชอบจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีและธุรกิจ เนื่องจาก AI ถูกคาดหวังให้มีบทบาทที่มากขึ้นในทุกมิติของชีวิต ตั้งแต่การทำงานในองค์กร การแพทย์ การศึกษา ไปจนถึงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ แนวโน้มสำคัญคือการกำหนดมาตรฐานและกฎระเบียบระหว่างประเทศที่ครอบคลุม เพื่อควบคุมการพัฒนาและใช้งาน AI ให้โปร่งใสและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การลงทุนใน Ethical AI หรือ AI ที่คำนึงถึงจริยธรรม เช่น การลดอคติ (bias) ในระบบตัดสินใจ และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล จะได้รับความสำคัญเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงอีกประการคือการบูรณาการ AI ในรูปแบบที่ยั่งยืน โดยใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาสังคม เช่น การคาดการณ์ภัยพิบัติ การแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียม และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อ AI ถูกพัฒนาและใช้งานอย่างรับผิดชอบ ความไว้วางใจจากผู้ใช้งานและผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมจะช่วยผลักดันให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนและเท่าเทียมกัน.

“Make Data Intelligence Accessible” ยกระดับธุรกิจของคุณด้วย AI solutions 

ตัวช่วยสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ

สนใจพัฒนาธุรกิจของคุณด้วย Data Intelligence และ AI ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยค่ะ