Insights

ทำไมใครๆก็พูดถึง AI ? คีย์สำคัญสู่ความสำเร็จแบบองค์กรชั้นนำ องค์กรคุณพร้อมหรือยัง?

AI กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร

ในปัจจุบัน, AI คีย์สู่ความสำเร็จขององค์กร กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ เทคโนโลยี AI มีบทบาทในการช่วยปรับปรุงกระบวนการต่างๆ อย่างมากมาย โดยการใช้ AI ในการดำเนินงานสามารถลดเวลาในการทำงาน เพิ่มความแม่นยำ และปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น

การเพิ่มประสิทธิภาพในงานประจำ

AI สามารถช่วยองค์กรในเรื่องของการทำงานซ้ำๆ และงานที่ต้องการความแม่นยำสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการจัดการอีเมลล์หรือการตอบคำถามลูกค้า (chatbots) ที่สามารถช่วยตอบคำถามหรือดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ได้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดภาระงานของพนักงาน และให้พวกเขามีเวลามากขึ้นในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือการตัดสินใจที่สำคัญ

การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น

อีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญของ AI คือการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น เช่น การใช้เครื่องมือ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากลูกค้า เช่น ข้อมูลการซื้อขาย ความคิดเห็น หรือข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เพื่อให้บริษัทสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น และทำนายแนวโน้มในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ

AI ยังสามารถช่วยองค์กรในการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจต่างๆ เช่น การจัดการสต็อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) โดยการใช้ AI ในการคำนวณและคาดการณ์การใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

การพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมพนักงาน

AI ยังช่วยองค์กรในด้านการพัฒนาทักษะของพนักงาน โดยการสร้างระบบการเรียนรู้และฝึกอบรมที่สามารถปรับปรุงและอัปเดตได้ตามความต้องการขององค์กร ด้วยเทคโนโลยี AI อาจช่วยวิเคราะห์และเสนอแนะทักษะที่พนักงานต้องการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับการทำงานในยุคดิจิทัล

การช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร

การใช้ AI ในการสื่อสารภายในองค์กร เช่น เครื่องมือการประชุมออนไลน์ที่ใช้ AI ในการจัดการเวลาหรือการสรุปข้อมูลสำคัญจากการประชุม จะช่วยให้การทำงานร่วมกันของทีมมีความราบรื่นมากขึ้น ลดเวลาในการประสานงาน และทำให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

การประหยัดเวลาและทรัพยากร

ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จะช่วยองค์กรประหยัดเวลาและทรัพยากรในการทำงาน ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญมากขึ้น และลดต้นทุนในการทำงานที่ไม่จำเป็น

Generative AI และการปฏิวัติการทำงานในองค์กร

Generative AI สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้โดยการลดขั้นตอนและเวลาในหลายด้าน เช่น:

  • AI คีย์สู่ความสำเร็จขององค์กร ด้วยการสร้างคำแนะนำในการวางแผน: Generative AI สามารถสร้างเนื้อหาหรือคำแนะนำจากข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็ว ลดความจำเป็นในการคิดและวางแผน
  • การประมวลผลข้อมูล: ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและสรุปผลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่ามากขึ้น
  • การจัดการประชุมอัตโนมัติ: ลดภาระการจัดการนัดหมายและการสื่อสารที่ซ้ำซาก

หลายธุรกิจได้นำ Generative AI มาใช้ในการพัฒนา Chatbots ที่ช่วยในการบริการลูกค้าอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยี Conversation AI ซึ่งสามารถตอบกลับได้อย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจบริบทของคำถาม ส่งผลให้ลดเวลาในการตอบคำถามลูกค้าและเพิ่มความพึงพอใจ

IHG Hotels & Resorts กำลังสร้าง Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI เพื่อช่วยให้แขกสามารถวางแผนวันหยุดได้ง่ายขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน IHG One Rewards

Magalu  หนึ่งในผู้ค้าปลีกใหญ่ที่สุดในบราซิล ได้ใช้ Vertex AI เพื่อสร้าง “Lu’s Brain” ซึ่งเป็นผู้ช่วยสนทนาเชิงโต้ตอบสำหรับแบรนด์ Lu ของตน (บอท 3D มีผู้ติดตามมากกว่า 14 ล้านคนใน TikTok และ Instagram)

ทุกคนอาจจะสงสัยว่า Vertex AI Codey APIs สามารถช่วยในการพัฒนา Chatbots ได้อย่างไร?

Vertex AI Codey APIs จาก Google Cloud เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างและพัฒนา Chatbots ที่มีความสามารถในการสื่อสารและตอบคำถามได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยี AI ที่มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวได้ตามข้อมูลที่ได้รับ ต่อไปนี้จะเป็นการอธิบายว่า Vertex AI Codey APIs ช่วยในการพัฒนา Chatbots ได้อย่างไร:

  • การสร้างโมเดลการสนทนา:
    Vertex AI Codey APIs ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อช่วยให้ Chatbot สามารถเข้าใจและตอบคำถามของผู้ใช้ได้ดีขึ้น จากข้อมูลที่ระบบได้เรียนรู้ในอดีต โมเดลสามารถพัฒนาและปรับปรุงได้โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการเพิ่มข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งทำให้ระบบสามารถตอบคำถามได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ

  • การปรับแต่งให้เข้ากับการใช้งานเฉพาะ:
    ด้วย Vertex AI Codey APIs นักพัฒนาสามารถปรับแต่ง Chatbot ให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้ เช่น การฝึกสอนให้ระบบตอบคำถามเฉพาะทาง หรือทำการตอบกลับแบบที่ตรงกับแนวทางของแบรนด์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เครื่องมือที่ Google Cloud ให้มาในการทำงานร่วมกับข้อมูลที่เป็นเฉพาะของแต่ละธุรกิจได้

  • การใช้งานแบบอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพ:
    Vertex AI Codey APIs มีความสามารถในการใช้โมเดล AI ที่ช่วยในการตรวจจับและแก้ไขคำถามที่ซับซ้อน ด้วยความสามารถในการทำงานที่รวดเร็ว ระบบสามารถช่วยจัดการกับคำถามจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์ นอกจากนี้ยังช่วยลดความผิดพลาดจากการตอบคำถามแบบมนุษย์และช่วยให้กระบวนการมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

  • การปรับปรุงและเรียนรู้จากข้อมูล:
    Vertex AI Codey APIs สามารถเรียนรู้จากข้อมูลที่ผู้ใช้ให้มาได้ตลอดเวลา การมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการปรับแต่ง Chatbot ทำให้ Chatbot สามารถปรับตัวได้จากการสนทนาและเรียนรู้วิธีการตอบคำถามที่เหมาะสมจากประสบการณ์จริง ซึ่งจะช่วยให้ Chatbot มีความสามารถในการตอบคำถามที่หลากหลายมากขึ้น

  • การรวมกับเทคโนโลยีอื่นๆ ใน Google Cloud:
    Vertex AI Codey APIs สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ ใน Google Cloud, Firebase เพื่อเก็บและประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ Chatbot สามารถเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลายและใช้ข้อมูลนั้นในการตอบคำถามให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น

โดยรวมแล้ว Vertex AI Codey APIs เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนา Chatbot ที่สามารถเข้าใจการสนทนาอย่างลึกซึ้งและตอบคำถามได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ช่วยให้การพัฒนา Chatbot มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ต่างๆ ทำให้การตอบคำถามและการโต้ตอบกับผู้ใช้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“Vertex AI Codey APIs” นั้นสามารถช่วยในการพัฒนา Chatbots โดยใช้ Generative AI เพื่อสร้างการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติและปรับตัวได้ตามบริบทของการสนทนา.

  • การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP): Codey APIs ใช้ NLP ในการเข้าใจและตีความคำถามของผู้ใช้, ทำให้ Chatbots สามารถตอบคำถามได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว.
  • การเรียนรู้จากข้อมูล: Chatbots สามารถเรียนรู้จากการโต้ตอบก่อนหน้าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า.
  • การสร้างการตอบสนองที่เป็นเอกลักษณ์: Generative AI ช่วยให้ Chatbots สร้างคำตอบที่ไม่ซ้ำกัน ลดความรู้สึกของการตอบกลับที่เป็นแบบแผน, ส่งผลให้ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าสนใจมากขึ้น.

(vertex-ai-vision-architecture-diagram)

หากองค์กรของคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

สามารถเริ่มใช้ Generative AI ด้วยขั้นตอนเหล่านี้

1. กำหนดวัตถุประสงค์: ระบุปัญหาหรือกระบวนการที่ต้องการปรับปรุง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การบริการลูกค้า หรือการพัฒนาแอปพลิเคชัน

2. เลือกเครื่องมือและผู้เชี่ยวชาญ: ใช้เครื่องมือ Generative AI เช่น Google Cloud Vertex AI หรือ ChatGPT และหาผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยคุณพัฒนาและปรับปรุง


3. ฝึกอบรมและปรับแต่ง: สอนโมเดลด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ


4. ทดสอบและปรับปรุง: ทดสอบระบบที่พัฒนาขึ้นและปรับปรุงตามผลตอบรับจากผู้ใช้


5. นำไปใช้จริงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง: เริ่มใช้งานและติดตามผลเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความพึงพอใจของผู้ใช้

บทสรุป

Generative AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในองค์กรอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยการลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงาน

เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงกระบวนการภายในองค์กร แต่ยังสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าด้วยการให้บริการที่รวดเร็วและเป็นส่วนตัวมากขึ้น การนำ Generative AI มาใช้ในองค์กรสามารถเปิดโอกาสให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเริ่มต้นใช้ Generative AI อาจเป็นขั้นตอนที่ท้าทาย แต่ด้วยการวางแผนที่ดี การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม และการฝึกอบรมอย่างละเอียด คุณจะสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจของคุณได้อย่างมีความสำเร็จ.

“ Make Data Intelligence Accessible” ยกระดับธุรกิจของคุณด้วย AI solutions 

ตัวช่วยสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ

สนใจพัฒนาธุรกิจของคุณด้วย Data Intelligence และ AI ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยค่ะ