Agentic AI ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว: ยกระดับประสิทธิภาพตั้งแต่การจองจนถึงการเดินทางถึงจุดหมาย

Agentic AI กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยความสามารถในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ การทำงานแบบอัตโนมัติ และการส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Category
Corporate / News
Case studies
Solutions
Industry

ประเด็นสำคัญ:

  • ทำความเข้าใจว่า Agentic AI ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวช่วยให้การเดินทางฉลาดขึ้นได้อย่างไร ผ่านการตัดสินใจแบบเรียลไทม์และโซลูชันแบบอัตโนมัติ
  • ดูว่าระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการจอง การรับมือกับความล่าช้า และการมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้อย่างไร
  • เรียนรู้ว่า Agentic AI ช่วยธุรกิจลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร และแข่งขันได้มากขึ้นอย่างไร
  • สำรวจตัวอย่างการใช้งานจริง ตั้งแต่การวางแผนทริปอย่างชาญฉลาดไปจนถึงระบบช่วยเหลือลูกค้าอัตโนมัติ

Agentic AI ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคืออะไร?

Agentic AI in travel
       เมื่อความต้องการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น การจัดการการจอง การสื่อสารกับลูกค้า และการให้บริการยิ่งซับซ้อนมากขึ้น นักท่องเที่ยวยุคใหม่คาดหวังประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัว ขณะที่ผู้ให้บริการท่องเที่ยวต้องการปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อลดต้นทุนและให้บริการที่ดีขึ้น
       Agentic AI ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวช่วยแก้ไขความท้าทายเหล่านี้ด้วยการทำงานอัตโนมัติ การตัดสินใจแบบเรียลไทม์ และการสื่อสารกับลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ตัวอย่างเช่น Agentic AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อค้นหารูปแบบและความชอบของลูกค้า ทำให้ธุรกิจสามารถมอบบริการที่ตรงใจได้มากขึ้น เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่ยังยกระดับประสบการณ์การเดินทางด้วยการให้บริการที่ราบรื่นและตอบสนองอย่างทันท่วงที
       ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการกำลังเร่งนำ Agentic AI ไปใช้ เพื่อเปิดทางให้ระบบ AI ทำงานได้อย่างอัตโนมัติมากขึ้น ส่งเสริมประสบการณ์เฉพาะบุคคล เช่น การสร้างแผนการเดินทางอัจฉริยะหรือเครื่องมือแปลภาษา พร้อมให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อทำให้การเดินทางราบรื่นขึ้นและตอบสนองความต้องการการท่องเที่ยวที่เฉพาะตัวมากขึ้น

Agentic AI เปลี่ยนประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างไร

Agentic AI in travel
สำหรับผู้ให้บริการท่องเที่ยว

1. ข้อมูลลูกค้าและบริการเฉพาะบุคคล: ผู้ให้บริการท่องเที่ยวเก็บข้อมูลสำคัญ เช่น อายุ ประวัติการเดินทาง และความชอบส่วนตัว Agentic AI ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า

ตัวอย่าง: หากลูกค้าชอบโรงแรมหรู ระบบจะเสนอที่พักระดับพรีเมียมและดีลพิเศษอย่างเหมาะสม

2. แนวโน้มตลาดและการปรับปรุงการดำเนินงาน: Agentic AI วิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจ ฤดูกาล และรูปแบบการจองอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยผู้ให้บริการปรับบริการได้อย่างยืดหยุ่น ลดต้นทุน และเพิ่มคุณภาพบริการ

ตัวอย่าง: ช่วงเทศกาล ระบบสามารถคาดการณ์ความต้องการสูงและปรับจำนวนพนักงานหรือเพิ่มโปรโมชันได้โดยอัตโนมัติ

3. ตัวชี้วัดการดำเนินงานและการสนับสนุนลูกค้า: ผู้ให้บริการสามารถติดตามข้อมูลภายใน เช่น อัตราการจองหรือเวลาตอบกลับ ลูกค้า ระบบจะวิเคราะห์และระบุจุดที่ควรปรับปรุง

ตัวอย่าง: หากโรงแรมตอบลูกค้าช้า ระบบจะแนะนำการตอบกลับอัตโนมัติสำหรับคำถามที่พบบ่อย เพื่อเพิ่มความเร็วและลดงานของพนักงาน

สำหรับนักท่องเที่ยว

1. ความชอบส่วนตัวและประสบการณ์ที่เหมาะกับแต่ละคน: Agentic AI ใช้ข้อมูลเรื่องความชอบ จุดหมายปลายทาง และกิจกรรมในอดีตเพื่อเสนอแผนท่องเที่ยวที่เหมาะสม

ตัวอย่าง: นักท่องเที่ยวสายลุยจะได้รับคำแนะนำกิจกรรมผจญภัย เช่น เส้นทางเดินป่าหรือกีฬาทางน้ำ

2. พฤติกรรมการเดินทางที่ผ่านมาและอัปเดตแบบทันที: จากการวิเคราะห์การเดินทางก่อนหน้านี้ ระบบสามารถแจ้งเตือนหรือเสนอทางเลือกใหม่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่าง: หากเที่ยวบินล่าช้า ระบบจะแจ้งทันทีและแนะนำทางเลือก เช่น การเดินทางอื่นหรือการปรับการจองโรงแรม

3. ข้อมูลเรียลไทม์และกระบวนการจองที่ราบรื่น: Agentic AI ใให้ข้อมูลสถานะเที่ยวบิน สภาพอากาศ และเหตุขัดข้องในท้องถิ่น พร้อมปรับแผนให้ทันที ทำให้มั่นใจได้ว่าการจองและการปรับเปลี่ยนการเดินทางนั้นอย่างราบรื่น

ตัวอย่าง: หากมีพายุ ระบบอาจแจ้งเตือนและเสนอเที่ยวบินที่เร็วกว่า หรือรีบุ๊กโดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างการใช้งานจริง

Agentic AI in travel

1. แผนการเดินทางส่วนบุคคล (Personalized Itineraries): Agentic AI วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมเพื่อนำเสนอแผนการเดินทางที่เฉพาะบุคคล ช่วยให้มั่นใจได้ว่านักเดินทางจะได้รับคำแนะนำสำหรับที่พัก การรับประทานอาหาร และกิจกรรม ทำให้ประสบการณ์การเดินทางราบรื่นและสนุกสนานยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง: ผู้ที่ชอบวัฒนธรรมจะได้รับคำแนะนำพิพิธภัณฑ์ งานท้องถิ่น และร้านอาหารพื้นบ้าน ตามข้อมูลจากทริปก่อนหน้านี้

2. การอัปเดตแบบเรียลไทม์และคำแนะนำอัจฉริยะ: นักเดินทางจะได้รับการอัปเดตแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน สภาพอากาศ และการหยุดชะงักอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถเสนอทางเลือก หรือแนะนำกิจกรรมและบริการต่างๆ ให้ทำระหว่างความล่าช้าหรือการหยุดชะงักที่ไม่คาดฝัน

ตัวอย่าง: หากเที่ยวบินล่าช้า Agentic AI สามารถแจ้งให้ผู้เดินทางทราบทันที และแนะนำเลานจ์หรือร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงเพื่อรอเที่ยวบินถัดไป

3. ให้ความช่วยเหลือในการจองอย่างราบรื่น: Agentic AI ช่วยปรับปรุงกระบวนการจองโดยเสนอตัวเลือกที่ปรับแต่งตามความต้องการของผู้เดินทางและการจองที่ผ่านมาซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนของการจองและปรับปรุงประสบการณ์การจองโดยรวม

ตัวอย่าง: เมื่อนักเดินทางจองวันหยุดพักผ่อนสำหรับครอบครัว Agentic AI แนะนำโรงแรมที่เหมาะกับครอบครัวและตัวเลือกการเดินทาง ทำให้กระบวนการง่ายขึ้นและทำให้มั่นใจได้ว่าประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น

4. การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน AI Chatbot: AI Chatbot ให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง จัดการคำถามและคำขอทั่วไป ช่วยลดเวลาการตอบคำถามในขณะที่ช่วยให้ตัวแทนมนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่ซับซ้อน

ตัวอย่าง: นักเดินทางที่ต้องการเปลี่ยนการจองโรงแรม AI Chatbot สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งาน ซึ่งจัดการการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องรอการจัดการของเจ้าหน้าที่

5. การจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินทางอย่างชาญฉลาด: Agentic AI ช่วยลดความยุ่งยากในการติดตามค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยการตรวจสอบค่าใช้จ่ายและสร้างรายงานค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติคุณลักษณะนี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งนักเดินทางรายบุคคลและผู้จัดการการเดินทางขององค์กร

ตัวอย่าง: นักเดินทางเพื่อธุรกิจสามารถรับสรุปค่าใช้จ่ายอัตโนมัติเพื่อการชดเชยและจัดทำงบประมาณได้อย่างง่ายดาย

6. การเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดราคาแบบไดนามิกสำหรับบริการท่องเที่ยว: Agentic AI ในการเดินทางช่วยให้สามารถปรับราคาแบบเรียลไทม์ตามฤดูกาลและราคาของคู่แข่งสิ่งนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการท่องเที่ยวสามารถเพิ่มรายได้สูงสุดในขณะที่เสนออัตราที่แข่งขันได้แก่ลูกค้า

ตัวอย่าง: สายการบินใช้ Agentic AI เพื่อปรับราคาตั๋วในช่วงระยะเวลาการเดินทางสูงสุด เพื่อให้แน่ใจว่าราคาที่เหมาะสมที่สุดที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและลูกค้าที่ต้องการข้อเสนอที่ดีที่สุด

7. คำแนะนำรายการสัมภาระส่วนบุคคล: การวิเคราะห์รายละเอียดสถานที่ปลายทางและความชอบของผู้เดินทาง แนะนำรายการที่ควรจัดกระเป๋าตามปลายทางที่กำหนดเอง สิ่งนี้ช่วยให้เตรียมตัวอย่างละเอียดและหลีกเลี่ยงความเครียดในนาทีสุดท้าย

ตัวอย่าง: สำหรับการพักผ่อนในฤดูหนาว Agentic AI แนะนำสัมภาระที่จำเป็นสำหรับสภาพอากาศหนาวเย็น ในขณะเดียวกันยังนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสภาพอากาศในท้องถิ่นเพื่อให้แน่ใจว่ามีอุปกรณ์ครบครัน

8. การปรับปรุงและข้อเสนอแนะหลังการเดินทาง: หลังจากการเดินทาง Agentic AI รวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้งานเพื่อปรับปรุงบริการในอนาคต การวิเคราะห์หลังการเดินทางนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการท่องเที่ยวปรับปรุงข้อเสนอและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แข็งแกร่งขึ้น

ตัวอย่าง: โรงแรมอาจใช้ Agentic AI เพื่อขอความคิดเห็นจากผู้เข้าพัก และดำเนินการเปลี่ยนแปลงตามคำแนะนำที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้เข้าพักในอนาคต

9. การประเมินความเสี่ยงในการเดินทางและคำแนะนำด้านความปลอดภัย: Agentic AI ตรวจสอบสภาพทั่วโลกอย่างต่อเนื่องเพื่อแจ้งเตือนความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ และการประเมินความเสี่ยงนี้ช่วยให้นักเดินทางมีข้อมูลสำคัญสำหรับการวางแผนในการเดินทางอย่างความปลอดภัย

ตัวอย่าง: หากเกิดความไม่สงบทางการเมืองที่จุดหมายปลายทางการเดินทาง Agent AI สามารถแจ้งผู้เดินทางที่ได้รับผลกระทบและเสนอเส้นทางหรือที่พักทางเลือกได้

10. ประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Virtual: นักท่องเที่ยวสามารถชมปลายทางแบบ 3D ก่อนจอง ช่วยในการตัดสินใจและเพิ่มความมั่นใจของลูกค้า

ตัวอย่าง: นักเดินทางสามารถทัวร์รีสอร์ทเสมือนจริงก่อนทำการจอง เพื่อให้แน่ใจว่ามันเป็นไปตามความคาดหวังของพวกเขาและลดความไม่พอใจหลังการจอง

Agentic AI กำลังสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว YOLO ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจจับวัตถุแบบเรียลไทม์ได้โดยการปรับปรุงการควบคุมคุณภาพและลดข้อผิดพลาดของมนุษย์

Agentic AI กับกระบวนการจอง

Agentic AI in travel
       นึกภาพว่ากำลังจองทริปหรูไปมัลดีฟส์ ระบบ Agentic AI ทำให้กระบวนการนี้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และตรงใจมากขึ้นด้วยการอัตโนมัติ การอัปเดตเรียลไทม์ และคำแนะนำเฉพาะบุคคล
จุดเด่นหลักที่เปลี่ยนประสบการณ์การจอง:
1. การทำงานอย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Autonomy): Agentic AI ค้นหาตัวเลือกเที่ยวบิน ที่พัก และการเดินทางที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณชอบวิลล่าริมทะเล AI จะสแกนและเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุดทันที
2. การจัดการระบบงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Workflow Optimization): Agentic AI ที่แตกต่างกันจัดการแบ่งหน้าที่อย่างอัจฉริยะ เช่น เปรียบเทียบราคา ดูคะแนนสะสม และการตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับวีซ่า เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการจองนั้นราบรื่นและมีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดและยืนยันการจองได้เร็วขึ้น
3.ความเข้าใจบริบทเชิงลึก (Contextual Understanding): การใช้ความสามารถในการดึงข้อมูลขั้นสูง (RAG) ในการเดินทาง Agentic AI จะวิเคราะห์ความชอบของผู้เดินทางและข้อมูลภายนอก (เช่น การพยากรณ์อากาศและเหตุการณ์ในท้องถิ่น) เพื่อปรับแต่งคำแนะนำ ตัวอย่างเช่น หากมีเทศกาลที่กำลังจะมาถึงในมัลดีฟส์ ระบบจะแนะนำประสบการณ์ที่คัดสรรมาเพื่อปรับปรุงการเดินทางของคุณ

ขั้นตอนเตรียมความพร้อมสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ Agentic AI

       เพื่อให้สามารถนำเอเจนติก AI มาใช้ในการเดินทางได้สำเร็จ องค์กรจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเชิงกลยุทธ์เพื่อเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน พนักงาน และกระบวนการ การเตรียมการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่นและเพิ่มประโยชน์สูงสุดของการทำงานอัตโนมัติและการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด
  • ประเมินขีดความสามารถปัจจุบัน
    ประเมินเทคโนโลยีและระบบข้อมูลที่มีอยู่เพื่อระบุช่องว่างและความไร้ประสิทธิภาพการทำความเข้าใจว่าองค์กรของคุณตั้งอยู่ที่ไหนในวันนี้ ซึ่งเป็นแผนงานที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน Agentic AI ในการเดินทางตัวอย่างเช่น ประเมินว่าระบบการจองปัจจุบันของคุณสามารถรวมระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้หรือไม่
  • ลงทุนด้านการเก็บข้อมูล
    ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีกลไกที่แข็งแกร่งในการรวบรวมและวิเคราะห์แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น พฤติกรรมของลูกค้า การโต้ตอบทางโซเชียลมีเดีย และประวัติการทำธุรกรรมการรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมทำให้ Agentic AI ในการเดินทางสามารถนำเสนอคำแนะนำส่วนบุคคลและตัดสินใจโดยอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำ
  • อบรมพนักงาน
    ให้ความรู้กับพนักงานเกี่ยวกับฟังก์ชันและการใช้งานของ Agentic AI ในการเดินทาง การฝึกอบรมเกี่ยวกับเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยเพิ่มความมั่นใจของพนักงานและอำนวยความสะดวกในการใช้งานตัวอย่างเช่น ฝึกอบรมทีมบริการลูกค้าเกี่ยวกับการใช้ Chatbot AI เพื่อช่วยในการจองและการสอบถามข้อมูลแบบเรียลไทม์
  • สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
    ร่วมมือกับผู้ให้บริการเทคโนโลยี AI เพื่อเข้าถึงเครื่องมือขั้นสูงและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม การสร้างความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีเฉพาะเร่งการนำมาใช้ Agentic AI ในการเดินทางและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการนำไปใช้
  • ทดสอบระบบก่อนใช้งานจริง
    เริ่มต้นด้วยการนำ AI solution มาใช้ในโปรเจ็กต์ขนาดเล็กเพื่อทดสอบการทำงานและระบุความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น นำร่องผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อจัดการแบบสอบถามการจองก่อนที่จะขยายการใช้งานจริง วิธีการนี้ช่วยปรับแต่งกระบวนการก่อนที่จะนำมาใช้ในระดับเต็มรูปแบบ
  • ติดตามและปรับปรุง
    ติดตามประสิทธิภาพของ Agentic AI อย่างต่อเนื่องในระบบการเดินทาง และทำการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องมือ AI สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ และใช้ตัวชี้วัดอย่างประสิทธิภาพ เช่น ความเร็วในการจองและความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ของ Agentic AI

       Agentic AI ในการเดินทางกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโดยการปรับกระบวนการอัตโนมัติ ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ช่วยให้บริษัทท่องเที่ยวสามารถให้บริการที่รวดเร็ว ฉลาดขึ้น และเป็นส่วนตัวมากขึ้นในขณะที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุน
1. ประสบการณ์ของลูกค้าเฉพาะบุคคล: Agentic AI วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า พฤติกรรมการเดินทางที่ผ่านมา และข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะสม ตัวอย่างเช่น สามารถแนะนำแผนการเดินทางส่วนบุคคล ที่พัก และประสบการณ์ในท้องถิ่นตามความสนใจของผู้เดินทาง การปรับแต่งระดับนี้ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า
2. ประสิทธิภาพการจองที่เพิ่มขึ้น: ด้วยกระบวนการจองโดยอัตโนมัติ Agentic AI ช่วยลดการทำงานด้วยตนเองและลดข้อผิดพลาด สามารถค้นหาตัวเลือกเที่ยวบิน ข้อเสนอโรงแรม และการเช่ารถได้ทันที ในขณะที่ปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ มอบประสบการณ์การจองที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
3. ข้อมูลเชิงลึกการเดินทางแบบเรียลไทม์: Agentic AI ตรวจสอบสภาพการเดินทางอย่างต่อเนื่อง เช่น ความล่าช้าของเที่ยวบิน การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และการหยุดชะงักการจราจร และให้ข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์แก่ผู้เดินทาง ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้เดินทางจะได้รับข้อมูลทันท่วงที ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางโดยรวม
4. ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพผู้ให้บริการ: บริษัทท่องเที่ยวสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานหรือการทำงานซ้ำๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การสอบถามลูกค้า การยืนยันการจอง และการวิเคราะห์ข้อมูล  Agentic AI ปรับการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้พนักงานและเทคโนโลยีได้ดีขึ้นในขณะที่ปรับปรุงอัตรากำไรให้ดีขึ้น
5. บริการลูกค้าที่ตอบสนองเร็วขึ้น: AI Chattbot และผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) ให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ตอบคำถามของลูกค้า จัดการการแก้ไขการจอง และให้ความช่วยเหลือหลายภาษา สิ่งนี้ช่วยเพิ่มประสบการณ์การบริการลูกค้า ในขณะที่ให้เจ้าหน้าที่หรือพนักงานมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่ซับซ้อน
6. การตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น: ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Algorithm ขั้นสูงและข้อมูลแบบเรียลไทม์ Agentic AI ช่วยให้การตัดสินใจได้เร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น สามารถทำนายความต้องการการเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การกำหนดราคา และแนะนำข้อเสนอส่งเสริมการขายที่ดีที่สุด ปรับปรุงการจัดการรายได้
7. ประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น: ตั้งแต่การวางแผนและการจอง ไปจนถึงการมีส่วนร่วมหลังการเดินทาง Agentic AI มอบประสบการณ์การเดินทางแบบครบวงจรที่ราบรื่น ช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนระหว่างบริการอย่างราบรื่น เช่น การประสานงานการรับส่งสนามบินและการแจ้งให้ผู้เดินทางทราบถึงการเปลี่ยนแปลงตารางเวลา
8. ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน: Agentic AI สามารถส่งเสริมการเดินทางที่ยั่งยืนโดยแนะนำตัวเลือกการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางเพื่อลดการปล่อยมลพิษ และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติในการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ สิ่งนี้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเดินทางที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม
9. แก้ปัญหาได้รวดเร็วทันใจ: ในกรณีที่มีการหยุดชะงักการเดินทาง เช่น การยกเลิกเที่ยวบิน หรือสัมภาระที่สูญหาย Agentic AI จะระบุวิธีแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว และสื่อสารทางเลือกให้กับนักเดินทางซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการรอ และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการให้ความช่วยเหลือทันที
10. ขยายขนาดได้ง่าย ปรับตามความต้องการได้ดี: Agentic AI สามารถปรับขนาดได้สูง ทำให้บริษัทท่องเที่ยวสามารถจัดการความต้องการที่ผันผวนในช่วงฤดูร้อนโดยไม่เพิ่มความซับซ้อนในการดำเนินงาน สามารถปรับให้เข้ากับแนวโน้มตลาดใหม่ และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจยังคงแข่งขันได้

แนวโน้มในอนาคตของ Agentic AI

       วิวัฒนาการของ Agentic AI ในการเดินทางมีจุดมุ่งหมายเพื่อกำหนดวิธีการที่นักเดินทางโต้ตอบกับบริการและวิธีการที่ธุรกิจส่งมอบประสบการณ์ที่กำหนดเอง ความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้นจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการปรับแต่งส่วนบุคคล ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ในขณะที่สนับสนุนโซลูชันการเดินทางที่ยั่งยืน
1. บริการการเดินทางส่วนบุคคลพิเศษ (Ultra-personalized): การพัฒนา Agentic AI ในการเดินทางจะช่วยให้การปรับแต่งส่วนบุคคลนั้นแม่นยำยิ่งขึ้นโดยการวิเคราะห์ชุดข้อมูลที่หลากหลาย เทคโนโลยีนี้จะรวบรวมคำแนะนำที่ปรับให้เหมาะสมอย่างมาก เช่น แผนการเดินทาง ที่พักและกิจกรรมที่ไม่เหมือนใคร โดยพิจารณาจากความชอบของผู้เดินทางและพฤติกรรมในอดีต ตัวอย่างเช่น สามารถแนะนำประสบการณ์ทางวัฒนธรรมพิเศษให้กับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ หรือแนะนำจุดหมายปลายทางที่เงียบสงบและเหมาะกับครอบครัวสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนที่ผ่อนคลาย
2. ทดลองเที่ยวผ่าน AR ก่อนการจอง: Agentic AI ในการเดินทางจะผสานเข้ากับความเป็นจริงเสริม (AR) เพื่อนำเสนอตัวอย่างเสมือนของจุดหมายปลายทาง โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวนักเดินทางจะสามารถมองเห็นห้องพักในโรงแรม หรือสำรวจสถานที่สำคัญแบบดิจิทัลก่อนทำการจอง ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจอย่างมีข้อมูลมากขึ้น แนวทางที่สมจริงนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจของลูกค้าด้วยการมอบประสบการณ์ “ลองก่อนซื้อ”
3. ความสามารถในการทำนายขั้นสูง: ด้วยการใช้การวิเคราะห์ขั้นสูง Agentic AI ในการเดินทางจะคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและแนะนำวิธีแก้ปัญหาเชิงรุกตัวอย่างเช่น AI สามารถคาดการณ์การหยุดชะงักเช่นการยกเลิกเที่ยวบินหรือสภาพอากาศเลวร้าย และให้ตัวเลือกการเดินทางทางเลือกได้ทันทีความสามารถในการทำนายนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นขึ้นโดยจัดการกับความท้าทายก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อนักเดินทาง
4. คำแนะนำการเดินทางแบบยั่งยืน: เมื่อจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมเติบโตขึ้น Agentic AI ในการเดินทางจะให้ความสำคัญกับโซลูชันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถแนะนำตัวเลือกที่ยั่งยืน เช่น การขนส่งที่ปล่อยมลพิษต่ำ ที่พักที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ แนวทางนี้สนับสนุนความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเดินทางสีเขียว ในขณะที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถสอดคล้องกับความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนระดับโลก
5. แชทบอท AI อัจฉริยะ: ในอนาคต AI Chatbot ในการเดินทางจะให้การตอบสนองที่ซับซ้อนและคล้ายกับมนุษย์มากขึ้น ผู้ช่วยเสมือนเหล่านี้จะจัดการคำขอที่ซับซ้อนให้การสนับสนุนหลายภาษาแบบเรียลไทม์ และแก้ไขข้อกังวลของลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง การสื่อสารอย่างต่อเนื่องและปรับตัวนี้ช่วยเพิ่มประสบการณ์ของนักเดินทางด้วยการให้ความช่วยเหลือทันเวลาตลอดการเดินทาง
6. การเฝ้าระวังความปลอดภัยแบบเรียลไทม์: Agentic AI จะมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงความปลอดภัยของผู้เดินทางโดยการแจ้งเตือนทันทีเกี่ยวกับความกังวลด้านสุขภาพ ภัยธรรมชาติ หรือความไม่มั่นคงทางการเมือง โดยการตรวจสอบสภาพโลกแบบเรียลไทม์จะสามารถส่งคำแนะนำด้านความปลอดภัยส่วนบุคคล และแนะนำแผนทางเลือกหากเกิดความเสี่ยงแนวทางเชิงรุกนี้ ช่วยให้มั่นใจได้ว่านักเดินทางจะได้รับข้อมูลและได้รับการคุ้มครองที่ดีขึ้น
7. การเพิ่มประสิทธิภาพราคาแบบไดนามิก: Agentic AI ในการเดินทางจะปฏิวัติรูปแบบการกำหนดราคา โดยปรับต้นทุนแบบไดนามิกตามความต้องการและแนวโน้มของตลาดสิ่งนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการท่องเที่ยวสามารถปรับราคาแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อเสนอที่ดีที่สุดที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของพวกเขา กลยุทธ์การกำหนดราคาอัจฉริยะนี้ช่วยเพิ่มการแข่งขันในขณะที่เพิ่มความพึงพอใจ
8. การประสานการเดินทางหลายรูปแบบแบบไร้รอยต่อ: ด้วยความสามารถในการซิงโครไนซ์ (Synchronize) วิธีการขนส่งหลายวิธี Agentic AI จะนำเสนอการวางแผนการเดินทางแบบครบวงจรที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะรวมเที่ยวบิน รถไฟ หรือบริการแชร์การเดินทาง AI จะเพิ่มประสิทธิภาพตารางการเดินทางเพื่อลดระยะเวลาการรอและปรับปรุงประสิทธิภาพ วิธีการแบบนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทางที่ซับซ้อนและช่วยเพิ่มประสบการณ์การเดินทาง

แปลงข้อมูลของคุณให้เป็นการดำเนินการด้วย Hashed Analytic

     เมื่อ Agentic AI เข้ามาปรับโฉมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การเตรียมพร้อมคือกุญแจสำคัญสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขัน ที่ Hashed Analytic เรามีความเชี่ยวชาญด้านโซลูชัน Agentic AI ที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน
     หากคุณอยากรู้ว่า Agentic AI จะช่วยยกระดับธุรกิจของคุณได้อย่างไร เรายินดีพูดคุยและช่วยวางแผนให้เหมาะสมกับองค์กรของคุณโดยเฉพาะ เพียงกรอกแบบฟอร์มบนหน้าเว็บไซต์ ทีมงานของเราจะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด

Real-World Success Stories