ผู้คนเบื้องหลัง MLOps

MLOps อาศัยบทบาททีมที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนและความร่วมมือข้ามสายงาน เพื่อทำให้กระบวนการตลอดวงจรชีวิตของการเรียนรู้ของเครื่องเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อให้การปรับใช้ระบบ AI ที่ขับเคลื่อนธุรกิจประสบความสำเร็จ
Category
Corporate / News
Case studies
Solutions
Industry

ประเด็นสำคัญ

  • บทบาทของทีม MLOps และความร่วมมือระหว่างทีม ช่วยทำให้วงจรชีวิตของโครงการ ML ทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่การพัฒนาโมเดลไปจนถึงการปรับใช้
  • ความสำเร็จของ MLOps ขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันของหลายทีม ทั้งนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล วิศวกร ML วิศวกร DevOps วิศวกรข้อมูล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางธุรกิจ
  • MLOps ไม่ได้เป็นเพียง เรื่องเทคโนโลยี แต่ความสำเร็จเกิดจากบทบาทที่ชัดเจนและการประสานงานอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ

MLOps เบื้องหลัง: สะพานเชื่อมคำสัญญาของ AI กับการใช้งานจริง

       ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) นำเสนอศักยภาพอย่างมหาศาล แต่การนำไปใช้งานจริงกลับเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์ทั่วไปที่ค่อนข้างคงที่หลังพัฒนาเสร็จ แต่โมเดล ML ต้องเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจากข้อมูลใหม่ จึงต้องมีกลยุทธ์การดำเนินงานที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้
       นี่คือบทบาทของ ทีม MLOps และความร่วมมือระหว่างทีม ซึ่งช่วยเชื่อมโยง ML และ IT Operations เข้าด้วยกัน ทำให้กระบวนการตั้งแต่การพัฒนาโมเดล การปรับใช้ ไปจนถึงการบำรุงรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ใช่เพียงการทำงานอัตโนมัติ แต่คือการสร้างระบบนิเวศที่ผู้เชี่ยวชาญหลายด้านร่วมมือกัน เพื่อพัฒนาและดูแลโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย ML ให้ใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพ

เข้าใจ MLOps ให้มากขึ้น: ไม่ใช่แค่ศัพท์เทคนิค

       แก่นของ MLOps คือการผสานกระบวนการ ML เข้ากับหลักการของ DevOps อย่างเป็นระบบ เพื่อให้โมเดลใช้งานได้จริงในระดับองค์กร ทั้งเชื่อถือได้ ขยายตัวได้ และตอบโจทย์ธุรกิจ แต่ความสำเร็จของ MLOps ไม่ได้มาจากเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว—มาจากความร่วมมือของทีมที่มีบทบาทชัดเจนต่างหาก
เพื่อเข้าใจการทำงานร่วมกันของทีม MLOps มาดูแต่ละบทบาทสำคัญกัน
1. นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientists): สถาปนิกของโมเดล ML
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลรับผิดชอบการออกแบบ สร้าง และฝึกโมเดล ML วิเคราะห์ข้อมูลและสร้างอัลกอริทึมที่ให้การพยากรณ์อย่างแม่นยำ เช่น โมเดลคาดการณ์ยอดขายใน e-commerce แต่โมเดลที่ดีจะไร้ประโยชน์หากไม่ร่วมมือกับบทบาทอื่นเพื่อให้ใช้งานได้จริง
2. วิศวกร ML (ML Engineers): ผู้แปลงโมเดลให้ใช้งานได้จริง
ML Engineers ทำหน้าที่นำโมเดลจากงานวิจัยไปสู่ระบบจริง จัดการการเวอร์ชันของโมเดล เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างระบบที่สามารถรองรับการใช้งานในระดับใหญ่ พวกเขาเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง ความคิดเชิงวิชาการ และ การใช้งานจริง
3. วิศวกร DevOps: ผู้ดูแลการดำเนินงานของโมเดลอย่างต่อเนื่อง
DevOps Engineers รับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐาน การปรับใช้โมเดล และระบบอัตโนมัติ รวมถึงการมอนิเตอร์ประสิทธิภาพ จับข้อผิดพลาด และอัปเดตโมเดลเมื่อจำเป็น ช่วยให้โมเดลทำงานได้อย่างเสถียรและปลอดภัยตลอดเวลา
4. วิศวกรข้อมูล (Data Engineers): ผู้จัดการข้อมูลซึ่งเป็นหัวใจของ ML
ไม่มีโมเดล ML ใดทำงานได้หากไม่มีข้อมูลคุณภาพสูง—หน้าที่นี้คือของ Data Engineers พวกเขาสร้างและดูแล data pipelines เพื่อให้ข้อมูลสะอาด พร้อมใช้ และส่งถึงทีมที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง
5. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางธุรกิจ: ผู้กำหนดทิศทาง
โมเดล ML จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียช่วยกำหนด KPI ความคาดหวัง และทิศทางของโปรเจกต์ ML เพื่อให้ผลลัพธ์ตอบสนองต่อกลยุทธ์องค์กร

การทำงานร่วมกัน: กุญแจสำคัญของ MLOps

ความสำเร็จของ MLOps เกิดจากการประสานงานของทุกบทบาท เช่น:
  • Data Scientists และ Data Engineers ร่วมกันจัดการข้อมูลคุณภาพสูง
  • ML Engineers ร่วมกับ DevOps Engineers เพื่อปรับใช้โมเดลอย่างเสถียร
  • Business Stakeholders กำหนดเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจน
       นี่คือระบบนิเวศที่ทุกฝ่ายขับเคลื่อนร่วมกัน ลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้โมเดลที่สร้างขึ้นถูกนำไปใช้อย่างต่อเนื่องในโลกจริง แม้เครื่องมือและอัตโนมัติจะมีบทบาทสำคัญ แต่หัวใจของ MLOps คือ ผู้คน และ ความร่วมมือ ที่ช่วยเปลี่ยน AI ให้เป็นโซลูชันจริงที่สร้างมูลค่าให้กับธุรกิจด้วยทีมที่ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ องค์กรสามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ AI และ ML มาใช้ เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

Real-World Success Stories