Data Lakehouse คืออะไร?

MLOps คือหลักปฏิบัติสำคัญที่เข้ามาช่วย จัดระบบ ขยายผล และดูแล โมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning Models) ให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ในทุกอุตสาหกรรม พร้อมทั้งช่วยจัดการความท้าทายด้าน การกำกับดูแล และ การรักษาคุณภาพ ของโมเดล
Category
Corporate / News
Case studies
Solutions
Industry
ข้อควรระวังสำคัญ
  • ความเข้าใจข้อมูล: ข้อมูลเป็นพื้นฐานของการดำเนินงานและการตัดสินใจยุคใหม่

  • การจัดเก็บและสถาปัตยกรรมข้อมูล: ต้องจัดระเบียบและประมวลผลอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้อินไซต์ที่ถูกต้อง

  • Data Warehouse: เหมาะกับข้อมูลมีโครงสร้าง แต่มีต้นทุนสูงเมื่อขยายระบบ

  • Data Lake: ยืดหยุ่นและคุ้มค่า แต่ไม่เหมาะกับงานเรียลไทม์

  • Data Lakehouse: ผสานข้อดีของทั้งสองแบบ—ยืดหยุ่น ปรับขนาดได้ ประหยัด และรองรับงานเรียลไทม์

  • อนาคตข้อมูล: Data Lakehouse กำลังเป็นมาตรฐานใหม่ ช่วยให้องค์กรสร้างอินไซต์และโอกาสได้ดียิ่งขึ้น

Data Lakehouseคืออะไร?

       ลองจินตนาการว่าคุณมีทั้งความเป็นระเบียบแบบห้องสมุด และความอิสระเหมือนห้องเก็บของ อยู่ในที่เดียว — นั่นคือ Data Lakehouse คุณสามารถหยิบทั้งหนังสือทำอาหารอิตาเลียนและอัลบั้มรูปครอบครัวจากชั้นเดียวกันได้อย่างง่ายดาย Data Lakehouse ผสานความยืดหยุ่นของ Data Lake เข้ากับโครงสร้างที่เป็นระเบียบของ Data Warehouse ทำให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูลได้หลากหลายประเภท พร้อมรักษามาตรฐานการจัดระเบียบและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ลองนึกภาพอินโฟกราฟิกที่แสดงเส้นทางตั้งแต่ Data Warehouse → Data Lake → Data Lakehouse ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวที่สุดของทั้งสองโลก

Data Lakehouse

รูปภาพ: databricks.com/glossary/ดาต้า-เลคเฮาส์

บทนำสู่โลกของข้อมูลแบบเข้าใจง่าย

       ข้อมูลคือหัวใจของโลกดิจิทัล เหมือนกับตัวอักษร A-Z ในภาษาอังกฤษ เรานำตัวอักษรมาสร้างคำ ประโยค และเรื่องราว เช่นเดียวกัน ข้อมูลคือส่วนประกอบเล็กๆที่รวมกันเป็นข้อมูลเชิงลึก ที่มีความหมาย ลองนึกภาพข้อมูลเป็นเหมือน “พิกเซล” แต่ละจุดบนหน้าจอ เมื่อรวมกันจึงเกิดเป็นภาพที่ชัดเจนให้เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ ข้อมูลมีอยู่ทุกที่ และเป็น “ภาษากลาง” ของโลกยุคใหม่ ข้อมูลยังเป็นเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนทุกอย่าง ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงองค์กรระดับโลก ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้แม่นยำขึ้น ธุรกิจมอบบริการที่ตรงใจ และรัฐบาลออกนโยบายที่มีข้อมูลรองรับ หากไม่มีข้อมูล โลกของเราก็เหมือนนิยายที่ไร้ข้อความ หรือภาพวาดที่ขาดสี เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรจึงหันมาใช้ Data Lakehouse—สถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่ผสานความยืดหยุ่นของ Data Lake เข้ากับประสิทธิภาพของ Data Warehouse วิธีการแบบครบวงจรนี้ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น วิเคราะห์แบบเรียลไทม์ได้ และขยายระบบได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการช่วยแพทย์วินิจฉัยที่แม่นยำขึ้น การเสริมศักยภาพธุรกิจด้วยบริการเฉพาะบุคคล หรือการสนับสนุนรัฐบาลในการกำหนดนโยบาย ข้อมูลและ Data Lakehouse คือรากฐานของการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในยุคดิจิทัลปัจจุบัน

รากฐานของการจัดเก็บและสถาปัตยกรรม

       การจัดเก็บข้อมูลก็เหมือนการจัดหนังสือบนชั้นวางหนังสือ — หนังสือแต่ละเล่มเปรียบเสมือน “คอนเทนเนอร์ของข้อมูล” เหมือนกับไฟล์หรือฐานข้อมูลในโลกดิจิทัล เราต้องวางหนังสือให้เป็นระเบียบเพื่อหยิบใช้ได้ง่าย ในทำนองเดียวกัน การจัดเก็บข้อมูลที่ดีช่วยให้การค้นหาและใช้งานข้อมูลมีประสิทธิภาพ หากชั้นหนังสือยุ่งเหยิง ก็ไม่ต่างจากฐานข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบ ซึ่งทำให้ข้อมูลใช้ประโยชน์ไม่ได้เต็มที่ การเข้าใจวิธีการจัดเก็บข้อมูลก็เหมือนรู้ผังของห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลที่มีโครงสร้างชัดเจนราวกับชั้นวางที่จัดเรียงอย่างเรียบร้อย หรือที่เก็บข้อมูลแบบอิสระที่คล้ายห้องใต้หลังคาใหญ่เต็มไปด้วยของหลากหลาย การเลือกวิธีจัดเก็บมีผลโดยตรงต่อความง่ายในการเข้าถึงและใช้งานข้อมูล
นี่คือเหตุผลที่ Data Lakehouse โดดเด่น — เพราะผสานความเป็นระเบียบของฐานข้อมูลเข้ากับความยืดหยุ่นของ Data Lake ทำให้ข้อมูลเข้าถึงได้ง่าย จัดการได้ดี และพร้อมสำหรับการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์

คลังข้อมูลแบบดั้งเดิม

       คลังข้อมูลเปรียบเสมือนห้องสมุดที่จัดระเบียบอย่างพิถีพิถัน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการโครงสร้างชัดเจน วิธีนี้ใช้ได้ดีมาหลายทศวรรษ โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่มีรูปแบบแน่นอน เหมือนหนังสือที่จัดหมวดหมู่ไว้อย่างเป็นระเบียบ แต่เมื่อประเภทข้อมูลมีความหลากหลายมากขึ้น วิธีนี้ก็เริ่มมีข้อจำกัด องค์กรจึงหันมาใช้ Data Lakehouse ซึ่งผสานความเป็นระเบียบของ Data Warehouse เข้ากับความยืดหยุ่นของ Data Lake เพื่อรองรับข้อมูลยุคใหม่ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

The Data Lake

       เมื่อเข้าสู่ยุคของ big data ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง—เช่น รูปภาพ วิดีโอ และเสียง—เพิ่มมากขึ้น นี่คือจุดที่ Data Lake เข้ามามีบทบาท เป็นเหมือนห้องใต้หลังคาที่สามารถเก็บ “สมบัติ” ทุกอย่างไว้ในสภาพดิบได้โดยไม่ต้องจัดเรียงก่อน
Data Lake ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญ ช่วยให้องค์กรเก็บข้อมูลดิบจำนวนมหาศาลได้อย่างอิสระ เหมือนการเปิดห้องใต้หลังคาที่เต็มไปด้วยกล่องมากมาย ซึ่งอาจบรรจุข้อมูลเชิงลึกที่รอการค้นพบอยู่ แต่ความยืดหยุ่นนี้ก็มาพร้อมความท้าทายเรื่องความเป็นระเบียบและการจัดการข้อมูล จุดนี้เองที่ Data Lakehouse เข้ามาเติมเต็ม โดยผสานความยืดหยุ่นของ Data Lake เข้ากับโครงสร้างของ Data Warehouse ทำให้ข้อมูลยังคงเข้าถึงง่าย เป็นระเบียบ และพร้อมสำหรับการนำไปวิเคราะห์ ช่วยให้องค์กรดึงคุณค่าจากข้อมูลได้โดยไม่ต้องเจอกับความวุ่นวายของการจัดเก็บแบบไร้โครงสร้าง

ข้อจำกัดของ Data Lake

       แม้ว่า Data Lake จะมีประสิทธิภาพ แต่ข้อมูลภายในยังไม่พร้อมนำไปใช้ทันที ซึ่งอาจสร้างความท้าทายด้านการกำกับดูแล ความเป็นส่วนตัว และความซับซ้อนทางเทคนิค มันคล้ายกับการพยายามค้นหาภาพสำคัญในห้องใต้หลังคาที่เต็มไปด้วยกล่องที่ไร้ป้ายกำกับ—เป็นไปได้ แต่ทั้งยากและใช้เวลามาก หากขาดการจัดการที่เหมาะสม Data Lake อาจกลายเป็น “Data Swamp” ได้อย่างรวดเร็ว เต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบและใช้งานไม่ได้ เปรียบเหมือนการค้นหาหนังสือเล่มหนึ่งในห้องใต้หลังคาที่เต็มไปด้วยกล่อง แต่ละกล่องมีสิ่งของปะปนกัน แม้จะมีศักยภาพซ่อนอยู่มากมาย แต่ความวุ่นวายก็ทำให้การดึงคุณค่าจากข้อมูลแทบเป็นไปไม่ได้
       นี่คือจุดที่ Data Lakehouse เข้ามามีบทบาท โดยผสานความสามารถในการปรับขนาดแบบไร้ขีดจำกัดของ Data Lake เข้ากับการจัดการที่มีโครงสร้างของ Data Warehouse ทำให้สามารถกำกับดูแลได้ดีขึ้น เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น และรองรับการวิเคราะห์เชิงลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ธุรกิจดึง “คุณค่าที่แท้จริง” จากข้อมูลของตนได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรที่ต้องการยกระดับระบบจัดการข้อมูล หรือเป็นผู้เรียนรู้ที่อยากทำความเข้าใจโลกข้อมูลสมัยใหม่ การเข้าใจแนวคิด Data Lakehouse จะเปรียบเสมือนพิมพ์เขียวของระบบที่ชาญฉลาด ยืดหยุ่น และพร้อมเติบโตไปกับคุณ
ยุคของ Data Lakehouse ได้มาถึงแล้ว—พร้อมปลดล็อกโอกาสและข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เคยมีมาก่อน

Real-World Success Stories